เจมส์ แมดดิสัน เปิดเปิดเผยว่าครอบครัวของเขาต่างหลั่งน้ำตาหลังจากรู้ข่าวว่าตนติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกฟุตบอลโลก
แมดดิสันทำผลงานได้อย่างเด่นกับ เลสเตอร์ ในฤดูกาลนี้จนกระทั่งมีชื่อติดกองทัพ “สิงโตคำราม” และมีลุ้นลงสนามเจอกับ อิหร่าน ในวันจันทร์นี้ มิดฟิลด์วัย 25 ปี ห่างหายจากทีมชาติเป็นเวลานานแล้วนับตั้งแต่เดบิวต์ในเกมที่เจอ มอนเตเนโกร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019
เช้าใจกันว่า แมดดิสันถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต เมินเรียกติดทีมก่อนหน้าที่ผ่านมาเพราะเหตุว่าถูกจับได้ว่าเข้าไปเล่นการพนันที่บ่อนคาสิโน แทนที่จะอยู่บ้านเพื่อพักรักษาอาการเจ็บป่วยซึ่งเขาถอนตัวไป
แมดดิสันกล่าวว่า “ผู้คนลืมไปว่าผมถูกส่งลงสนามเพราะเหตุว่าแกเร็ธ และถูกเรียกพบหลังจากเหตุการณ์ที่คาสิโน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับแกเร็ธในตอนนั้น มันถูกพูดถึงจนกระทั่งเวอร์ไปและบางส่วนก็ไร้สาระ”
ตอนนี้ แมดดิสัน มีโอกาสที่จะได้ตอบแทนความไว้วางใจของ เซาธ์เกต
ที่เรียกติดทีมชุดล่าสุด แต่เขาเปิดเปิดเผยว่าการมีชื่อร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกมีความหมายต่อครอบครัวเขาอย่างมาก
“พ่อผมถึงกับร้องไห้ออกมา ซึ่งปกติท่านไม่ร้องง่ายๆ!’ แมดดิสันกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบาๆ
“ผมไม่มีความคิดว่าจะได้เห็นท่านร้องไห้ในรอบหลายปี! แน่นอนว่าพวกเขาร้องไห้เพราะเหตุว่ามีความสุข ครอบครัว, พ่อแม่ของคุณ, พวกเขาอยู่ในการเดินทางครั้งนี้พร้อมกับคุณ”
“เมื่อหลายปีก่อน, ผมถูกหั่นชื่อออกจากทีมหลังจากที่มีความคิดว่าน่าจะมีโอกาสติดกองทัพ และความผิดหวังนั้นมันกระจายไปทั่วครอบครัว”
“ตอนนี้มันตรงกันข้ามกับขนาดของความสุข ผมอยากกลับไปดูพวกเขาที่โคเวนทรีทันทีหลังจากการประกาศรายชื่อทีม”
“ผมได้ทานอาหารเย็นที่บ้านกับพ่อแม่, ลูกชายตัวน้อย และแฟนสาว ผมอยากมองเห็นพวกเขา นั่นเป็นช่วงเวลาที่ผมจะจดจำตลอดไป ผมอยากกลับไปหาแม่และกอดท่าน มันเป็นวันพิเศษสำหรับพวกเราทุกคน, เป็นวันที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย”
เบรดเดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมฟุตบอลของ เลสเตอร์ ซิตี้ ออกมากล่าวว่า การตัดสินใจเปลี่ยนตัว เจมส์ แมดดิสันกองกลางทีมชาติอังกฤษ หลังจากผ่านไปเพียงแค่ 25 นาทีในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายก่อนฟุตบอลโลกของ เลสเตอร์ เป็นเพียงแค่ “การป้องกันไว้ก่อน”
เกิดอะไรขึ้นกับ เจมส์ แมดดิสัน?
โดยนักเตะวัย 25 ปีรายนี้ เป็นคนทำประตูเบิกร่องให้กับทีมในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกมาตั้งแต่ต้นเกม
ซึ่งจังหวะอาการบาดเจ็บของ แมดดิสันเกิดขึ้นจากตอนที่เขาล้มลงหลังจากจังหวะที่กองกลางรายนี้เปิดลูกเตะมุมได้ไม่นาน แต่เขาก็สามารถเดินออกจากสนามได้หลังจากได้รับการประเมินโดยแพทย์ของเลสเตอร์
ปฏิกิริยาของกุนซือและเพื่อนร่วมทีม
ผู้จัดการทีมฟุตบอลของ เลสเตอร์ อย่าง ร็อดเจอร์ส กล่าวว่า แมดดิสันผู้ซึ่งถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ มีอาการเจ็บที่เข่า
“เขาสบายดี มันเป็นเพียงแค่เรื่องที่ต้องควรจะระวัง เขาเจ็บเข่านิดหนึ่ง เขาไม่ได้ฝึกซ้อมอะไรมากนักในสัปดาห์นี้ เขาไม่ได้เป็นอะไร” ร็อดเจอร์ส กล่าว
“มันเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่ยากลำบากสำหรับนักเตะที่ได้ไปเล่นในฟุตบอลโลก เราพยายามคุ้มครองป้องกันพวกเขาให้ดีที่สุด”
ผู้รักษาประตูของ เลสเตอร์ อย่าง แดนนี่ วอร์ด กล่าวเสริมว่า: “ผมมีความคิดว่าเขาจะไม่เป็นอะไร ผมมีความคิดว่าเขาโอเค เขาลงมาและทำประตูได้ หวังว่าทุกอย่างที่เขาต้องการจะผ่านไปด้วยดี และเขาแสดงให้โลกมองเห็นแล้วว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง”
โดยทีมชาติอังกฤษมีโปรแกรมเปิดสนามนัดแรกในฟุตบอลโลกพบกับ อิหร่าน ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้
ตอนแรกสื่อคาดหลุดโผ เช็กผลงานแมดดิสันกับเลสเตอร์หลังได้ลุยฟุตบอลโลกกับอังกฤษ
ตอนแรกสื่อคาดอาจหลุดโผ ย้อนดูผลงาน “เจมส์ แมดดิสัน” กับทีม “เลสเตอร์ ซิตี้” ทีมดังแดนผู้ดี หลังมีชื่ออยู่ใน 26 ขุนพลลุยศึก “ฟุตบอลโลก 2022” กับ “ทีมชาติอังกฤษ”
ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การนำทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศรายชื่อ 26 นักเตะชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ โดยจะทำการแข่งขันในระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2022 นี้
ปรากฏว่ามีชื่อของ เจมส์ แมดดิสันอยู่ในแผงกองกลางร่วมกับ ดีแคลน ไรซ์, จูด เบลลิงแฮม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, คัลวิน ฟิลลิปส์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ รวมถึง เมสัน เมาท์ ซึ่งเดิมทีนั้นแรก เจมส์ แมดดิสันวัย 25 ปี ถูกสื่อบางสำนักคาดว่าจะหลุดโผ 26 แข้งไปลุย ฟุตบอลโลก 2022 ในครั้งนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วตัวเขาก็มีชื่ออยู่ในโผ หลังกลับมาทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดระยะหลัง
ซึ่งทาง OptaJoe เจ้าพ่อสถิติลูกหนังมีชื่อของโลก เปิดเผยสถิติผลงานของ เจมส์ แมดดิสันกับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ออกมาซึ่งสอดคล้องกับการประกาศรายชื่อ 26 แข้ง “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ที่มีชื่อแข้ง เจมส์ แมดดิสันโดยนักเตะมีส่วนร่วมโดยตรง 30 ประตู ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (นับย้อนตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว) แบ่งออกเป็น 18 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ มีเพียงแค่ แฮร์รี เคน เท่านั้นที่เป็นผู้เล่นจากชาติเดียวกันที่ทำได้ดียิ่งกว่าด้วยส่วนร่วมโดยตรง 38 ประตู