เหล่ากัปตันทีมชาติอีกทั้ง แฮร์รี่ เคน , มานูเอล นอยเออร์ , แกเร็ธ เบล รวมทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ไม่ได้รับอนุญาตจาก ฟีฟ่า ให้สวมปลอกแขนสนับสนุน LGBTQ+ ซึ่งถ้าหากพวกเขาทำแบบนั้น จะมีโอกาสโดนใบเหลืองตั้งแต่เริ่มเขี่ยลูก
ก่อนเริ่มฟุตบอลโลก ทีมชาติอังกฤษ, เยอรมันนี, เวลส์, เนเธอร์แลนด์ รวมทั้ง เดนมาร์ค วางแผนจะสวมปลอกแขนรูปหัวใจสีรุ้ง ภายใต้โครงการ One Love เพื่อสนับสนุนสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ
วันเสาร์ที่ผ่านมา ฟีฟ่า ร่วมกับสหประชาชาติ ออกแคมเปญปลอกแขนกัปตันหมือนกัน โดยแต่ละรอบจะรณรงค์ประเด็นที่แตกต่างไป อีกทั้งเรื่องภาวะโลกร้อน, ปัญหาขาดแคลนอาหาร, การศึกษาของเยาวชน, สันติภาพรวมทั้งความเท่าเทียม
อย่างไรก็ตาม โครงการของ ฟีฟ่า ไม่ได้ระบุถึงเรื่องชาว LGBTQ+ ไว้อย่างเฉพาะเจาะจง ขณะที่ กาตาร์ ประเทศผู้จัดงานกำหนดให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดกฏหมาย
The Telegraph รายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฟีฟ่า จัดประชุม ณ กรุงโดฮา กับเหล่าทีมชาติที่เข้าร่วมโครงการ One Love เพื่อชักจูงให้เลิกโครงการดังกล่าว รวมทั้งปฏิบัติตามนโยบายใหม่
อย่างไรก็ตาม รายงานบอกว่าการพูดคุยไม่ลงตัว แถมชาติพวกนั้นได้รับแจ้งจาก ฟีฟ่า อีกว่ากฏที่วางไว้ไม่อนุญาตให้ใส่ปลอกแขน One Love
กฏของฟีฟ่า เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายบอกว่า ในการแข่งขันอีกทั้งผู้เล่นรวมทั้งสตาฟฟ์โค้ช จะสวมได้ก็แต่เฉพาะเสื้อผ้ารวมทั้งอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาติจาก ฟีฟ่า เท่านั้น
ปลอกแขนกัปตัน One Love อาจถูกคิดว่าเข้าข่ายผิดกฏ รวมทั้งผู้เล่นที่สวมอาจได้รับใบเหลืองตั้งแต่เขี่ยลูกเริ่มเกม รวมไปถึงมีโอกาสโดนโทษปรับเงินอีกด้วย
ฟาน ไดจ์ค เซ็นเตอร์แบ็คกัปตัน “กังหันลม” ซึ่งเตรียมเจอกับ เซเนกัล วันจันทร์นี้ กล่าวถึงประเด็นปัญหาดังกล่าวว่า
“วันพรุ่งนี้ผมจะใส่ปลอกแขน One Love, มุมมองของเรายังคงดังเดิม รวมทั้งถ้าผมโดนใบเหลืองจากเหตุนี้แล้ว เราคงต้องมีการพูดคุยกันหน่อย เพราะเหตุว่าผมไม่ชอบเล่นโดยมีใบเหลืองติดตัว”
ขณะที่ เคน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
“ผมมีความคิดว่าเราแสดงออกชัดเจนแล้วว่าเราต้องการใส่ปลอกแขนนี้”
เหมือนกันกับ เบล รวมทั้ง นอยเออร์ ที่ก่อนหน้าที่ผ่านมายืนยันชัดเจนว่าต้องการใส่ปลอกแขนดังกล่าว ขณะที่ คริสเตียน อีริคเซ่น ก็คอนเฟิร์มว่า ไซม่อน เคียร์ กัปตันเดนมาร์ค มีจุดยืนแบบเดียวกัน
คาด 11 นักฟุตบอลตัวจริงทีมชาติอังกฤษ ในเกมเปิดหัวบอลโลกกับ อิหร่าน วันจันทร์นี้ ใช้ แฮร์รี่ เคน รอทะลวงประตูคู่แข่ง ขณะที่แนวรับมี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ รอยืนคุมหลัง
แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ พร้อมแล้วที่จะนำกองทัพ “สิงโตคำราม” ทำศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 18 ธันวาคมนี้
อังกฤษ อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ อิหร่าน, สหรัฐฯ รวมทั้ง เวลส์ โดยจะประเดิมสนามในฟุตบอลโลกด้วยการเจอกับ อิหร่าน วันจันทร์ที่ 21 พ.ย.นี้ (20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)
ในเกมเจอ อิหร่าน
นั้น เซาธ์เกต จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาจาก แมนฯ ซิตี้ รวมทั้ง เจมส์ แมดดิสัน กองกลาง เลสเตอร์ ซิตี้ หลังทั้งสองรายยังไม่สมบูรณ์
คาดว่า 11 นักฟุตบอลตัวจริง “สิงโตคำราม” ที่ เซาธ์เกต จะส่งลงเล่นในเกมเปิดหัวบอลโลกคงมีหน้าตาดังนี้ (ระบบ 3-4-3)
ผู้รักษาประตู: จอร์แดน พิคฟอร์ด
ตำแหน่งนายทวารอีกทั้ง 3 คนที่ เซาธ์เกต เรียกมานับว่ามีฝีมือรวมทั้งเหนียวแน่นพอๆกัน แต่ดูแล้ว จอร์แดน พิคฟอร์ด จาก เอฟเวอร์ตัน น่าจะได้เป็นมือ 1 ของทีม
กองหลัง: จอห์น สโตนส์, เอริก ดายเออร์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์
แผงกองหลัง 3 คนที่ เซาธ์เกต จะส่งลงเล่นคงเป็น จอห์น สโตนส์, เอริก ดายเออร์ รวมทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ หากแม้รายหลังไม่ค่อยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่นนี้ก็ตาม
กองกลาง: คีแรน ทริปเปียร์, เดแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิงแฮม, ลุค ชอว์
วิงแบ็กทางฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ คีแรน ทริปเปียร์ ส่วนฝั่งซ้ายใช้ ลุค ชอว์ โดยมี เดแคลน ไรซ์ ทำหน้าที่ตัวตัดเกม อยู่หลัง จู๊ด เบลลิงแฮม ที่จะรอปั้นเกม
กองหน้า: บูคาโย่ ซาก้า, แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น
บูคาโย่ ซาก้า ปีก อาร์เซน่อล น่าจะได้ลงลากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งขวา ขณะที่ทางด้านซ้าย ฟิล โฟเด้น ต้องแย่งชิงตำแหน่งกับ ราฮีม สเตอร์ลิง โดยมี แฮร์รี่ เคน เป็นกองหน้าตัวเป้า